Tuesday 23 September 2014

[บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน] Intimacy (อู๋เสีย * เมินโหยวผิง) [One-shot]


[One-shot] Intimacy

Fandom : บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน


Pairing : อู๋เสีย * เมินโหยวผิง



**** คำเตือน **** สปอยล์เล็กน้อยถึงประมาณเล่ม 7 ไทยค่ะ









เมินโหยวผิงไม่ใช่คนหรอก


หลายครั้งที่ผมคิดไปว่าเขาอาจไม่ใช่สิ่งมีชีวิตบนดาวนี้ กระทั่งตัวอักษรและสัญลักษณ์ประหลาดของเสี่ยวเกอ จนบัดนี้ผมก็ยังไม่รู้ความหมาย

เขามักทำตัวกลืนหายไปกับอากาศธาตุ เหม่อมองออกไปในความว่างเปล่า ประหนึ่งกำลังติดต่อกับบางสิ่งในมิติอื่น และจะว่าไปแล้ว เสี่ยวเกอถนัดแต่เรื่องที่มนุษย์ทั่วไปไม่เห็นน่าถนัดตรงไหน

เขาสามารถเดินไปจับผีดิบหักคอเอาง่าย ๆ เหมือนหักแท่งป๊อกกี้ แต่ไม่สามารถเดินไปจับมือแนะนำตัวกับมนุษย์ด้วยกันได้ เขาเป็นจอมหายตัวมืออาชีพ แต่ก็จะโผล่มาอย่างลึกลับเช่นกันในเวลาที่ชีวิตผมห้อยต่องแต่งอยู่บนเส้นด้าย เขาใส่แค่กางเกงในลายลูกเจี๊ยบใช้ชีวิตในถ้ำกับนายอ้วนได้อย่างไม่เคอะเขิน แต่พอผมลูบเบา ๆ ลงไปบนแผ่นอกเปล่าเปลือยเพื่อมองหารอยสัก ทั้งที่ผ้าผ่อนชิ้นอื่นก็ยังอยู่เต็มยศ ร่างกายเขากลับร้อนจนร่องรอยกิเลนผุดขึ้นจาง ๆ

ผมเงยหน้าขึ้นจากตั้งเอกสารเก่าที่รวบรวมมาคัดกรองข้อมูล ลอบมองผ่านช่องว่างระหว่างกองกระดาษสีเหลืองอ๋อยรอบตัว เลยออกไปผ่านขอบรุ่งริ่งและเหม็นอับของบันทึกซกมกเหล่านั้น คือตำแหน่งประจำที่ผมชินแล้วกับการเห็นเขานั่งอยู่

ฝนโปรยอยู่ข้างนอก ฟ้าครึ้มจนนอกจากใต้แสงโคมไฟเหนือโต๊ะผมแล้ว บริเวณอื่นก็มืดสลัวไปหมด เงาตะคุ่มของเมินโหยวผิงคล้ายกำลังเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง วางคางไว้บนฝ่ามือ ไกล ๆ จากตรงนี้ เขานิ่งจนดูไม่รู้ว่าตื่นหรือหลับ บางทีนั่นอาจเป็นแค่รูปปั้นหิน เสี่ยวเกอตัวจริงหายวับไปแล้วอย่างที่มักเกิดขึ้นบ่อย ๆ

ผมหัวเราะเบา ๆ กับตัวเอง คิดอะไรเพ้อเจ้อไปได้ แต่เมื่อใคร่ครวญอีกที ขนาดใส่หน้ากากมนุษย์ปลอมตัวเป็นคนอื่นเขายังเคยทำมาแล้ว ประสาอะไรกับสับเปลี่ยนตัวเองด้วยรูปปั้นหินกันเล่า

พอเออออกับตัวเองเช่นนั้น จึงได้ลุกจากเก้าอี้ ย่างเท้าแผ่วเบาเข้าไปใกล้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องย่อง แต่ไม่อยากให้เสียงฝีเท้าผมรบกวนช่วงเวลาเหม่อลอยอันเป็นกิจวัตรประจำวันของเสี่ยวเกอ

เขาไม่กระดิกตัวสักแอะ สมมติฐานเรื่องรูปปั้นหินของผมเริ่มมีความเป็นไปได้ ใจก็วุ่นวายไปว่าฉิบหายละ หรือเขาจะหนีผมไปไหนอีกแล้ว

แต่เมื่อขยับเข้าไปใกล้ กระทั่งมองเห็นขนตาบนเปลือกตาที่ปิดสนิทของเขา..ใกล้จนได้ยินเสียงหายใจ...ผมรู้สึกได้ถึงลมร้อนซึ่งรินรดบนปลายจมูก...


...ใกล้เกินไป...


ผมรู้เรื่องนั้นดี แต่สมองว่างเปล่าขาวโพลน เกินกว่าจะเรียบเรียงความคิดให้เป็นเรื่องเป็นราว ไม่แน่ใจว่าตัวเองหลับตาลงตอนไหน จดจ่ออยู่เพียงอย่างเดียวคือคนที่นั่งตรงหน้า

แวบหนึ่งผมคิดว่าควรพูดอะไรกับเขาบ้าง แต่ปากก็ไม่ว่างเสียแล้ว


ดีจริงที่ไม่ใช่รูปปั้น..


เพราะรูปปั้นไม่อุ่นอย่างนี้...และริมฝีปากของรูปปั้นก็ไม่มีทางนุ่มอย่างที่ผมกำลังรู้สึก


มือผมที่ทาบอยู่บนแผ่นหลังเขา รับรู้ได้ถึงอุณหภูมิของผิวกาย บางทีใต้เสื้อยืดสีน้ำเงินของเมินโหยวผิง รอยสักกิเลนอาจเผยร่างขึ้นเต็มตัวแล้วก็ได้


“เสี่ยวเกอ...นายตัวร้อน”


ผมกระซิบ ไม่หวังได้รับคำตอบใด แล้วเขาก็ไม่ตอบจริง ๆ นั่นละ เพียงแต่วางมือลงบนต้นแขนผม เงยหน้ารับด้วยตาปรือปรอยเหมือนลูกแมว


เมินโหยวผิงไม่ใช่คนแน่ ๆ


ก็คนน่ะ...ไม่มีทางน่ารักได้ขนาดนี้หรอก




----------------------------------


จะว่าไป เนื้อหาก็คล้ายว่าต่อกับตอนที่แล้ว อันนี้  >> [One-shot] Write it on your skin นิดหน่อย 

มโนอยู่..อย่าเพิ่งปลุกเราค่ะ กร๊ากกกก เราชอบมากเลยล่ะค่ะ เสะลูกหมาปีนเกลียว ตามอีกฝ่ายต้อย ๆ เนี่ย เพราะชอบมากก็เลยให้นายน้อยนำหน้า แง้ง้ง้ เสะง่อยมุ้งมิ้ง //รักนะ 55555


จากนี้ก็อยากเขียนอีกค่ะ ถึงจะแค่สั้น ๆ อารมณ์ชั่ววูบเวลาอู้งาน(?)ก็เถอะ ตอนนี้รอเล่มเก้าอย่างใจจดใจจ่อเลย << เรื่องเรียนได้อย่างนี้ไหม T{}T

หวังว่าจะมีตอนต่อ ๆ ไปอีก lol

3 comments:

  1. นายน้อยเนี่ย แหมแหมแหม //พัดไอร้อน

    ReplyDelete
    Replies
    1. คนดูก็พลอยจะร้อนรุ่มค่ะ แฮร่กก ////

      Delete
  2. อะไรกันคะ นายน้อยลูบแล้วรู้สึกร้อนขนาดรอยสักขึ้น 555+ น่ารักกรี๊สกร๊าสมากเลยค่ะ >////<

    ReplyDelete