Saturday 25 October 2014

[บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน] The missing piece (เสียผิง/ผิงเสีย) [One-shot]




[One-shot] The missing piece

Fandom : บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน

Paring : อู๋เสีย*เมินโหยวผิง / เมินโหยวผิง*อู๋เสีย (แล้วแต่จะคิดค่ะ)


****คำเตือน**** สปอยล์เล่ม 10 ค่ะ สปอยล์เต็ม ๆ ถ้ายังไม่ได้อ่านและยังไม่อยากทราบเนื้อเรื่อง อย่าเพิ่งกดอ่านนะคะ ;w;







เขาพูดเหมือนตัวเองจะถูกลืม

อะไรทำให้เขาเอ่ยเช่นนั้น? ผมจะลืมเขาได้อย่างไร กลับเป็นผมเองเสียอีกที่ครุ่นคิดจนหมกมุ่นอยู่ตลอด ว่าเขาต่างหาก ไม่รู้ว่าจะเป็นฝ่ายลืมผมไหม

สิบปีหลังประตูสำริดนั่น กับความทรงจำขาด ๆ หาย ๆ ของเขา แล้วผมจะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ตกหล่นไปหรือเปล่า

ให้อดคิดได้อย่างไร เขาเคยลืมผมมาแล้วครั้งหนึ่ง ผมคนเดียวกับที่เขาบอกเองว่าเป็นความเชื่อมโยงอย่างเดียวระหว่างเขากับโลกใบนี้ หากเส้นสายสัมพันธ์เลือนรางนั้นสะบั้นเสีย ตัวตนของเขาจะยังเหลือสิ่งใดให้ผูกพันกับโลกนี้ได้อีก ไม่ต่างจากคนที่ตายไปแล้วเลยสักนิด

ผมนึกถึงตรงนี้ก็หนาวสะท้านขึ้นมา รู้ดีว่าเมินโหยวผิงย่อมไม่เดือดร้อนเรื่องนั้น เขาคงทำเพียงปรายตา มองความเป็นไปทั้งหมดอย่างเงียบงัน และดำเนินสิ่งที่เชื่อมั่นว่าเป็นหน้าที่ของเขาต่อ ไร้ความรู้สึกใดมาทำให้บิดเบือน ความมุ่งมั่นของเขาซึ่งไม่มีใครหรือสิ่งใดสามารถสั่นคลอนได้เคยทำผมหวาดหวั่น ด้วยเกรงว่าอาจต้องเสียเขาไปตลอดกาล

แต่สิบปีผ่านไปแล้ว ผมกลับมายืนอยู่ตรงนี้อีกครั้ง สูดลมหายใจเข้าลึก อัดควันบุหรี่เข้าไปเต็มปอด เฝ้ามองประตูสำริดหนักอึ้งซึ่งกำลังเคลื่อนเปิดช้า ๆ

ไม่เป็นไร...ผมกระซิบกับตัวเอง

ผมไม่เป็นไรจริง ๆ ตอนนี้ไม่เหลือความลังเลใดอีก ไม่ว่าอะไรจะรอผมอยู่เบื้องหลังประตูบานนั้น ต่อให้เขาจะยังจำผมได้หรือไม่ก็ตาม แต่ข้างหลังนั่นคือเมินโหยวผิง นายเรือพ่วงที่สกิลการใช้ชีวิตล้มเหลวระดับเก้า เขาไม่มีผมไม่ได้หรอก..

ผมบอกตัวเองว่าเขาขาดผมไม่ได้...แม้รู้ดีที่สุด ว่าความจริงแล้ว ผมต่างหากที่ขาดเขาไม่ได้

ผมต้องการเขา

ผมพร่ำย้ำในใจ เสี่ยวเกอ ต่อให้นายเคยช่วยฉันไว้หลายครั้ง แต่จำไว้ว่าฉันก็เคยช่วยชีวิตนายไม่น้อยเช่นกัน นายไม่ได้รับอนุญาตให้ลืมฉัน ไม่อย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้น นายน้อยสกุลอู๋จะไม่มีวันให้อภัยนาย

แสงสว่างด้านหลังทำให้ทัศนวิสัยของผมพร่าเลือน แต่ยังพอมองเห็นเงาตะคุ่มเป็นเค้าโครงของคนที่ร่างกายซูบผอม ร่างนั้นยืนนิ่งไม่ไหวติง คล้ายว่ากำลังจ้องมองมาทางผมเช่นกัน

วินาทีนั้น ผมเกร็งหลังเหยียดตรง หัวใจเต้นหนัก ๆ อยู่ในอกขณะก้าวขาไปข้างหน้า ไม่มีสั่นไหวแม้แต่น้อยเหมือนอย่างอู๋เสียเมื่อสิบปีก่อน ผมเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ สิ่งเดียวที่หวังให้คงอยู่เช่นเดิม คือจะยังเป็นเทียนเจินอู๋เสียของเขา สิ่งที่เขาเคยบอกจะปกป้องไว้เป็นสิบปี

สายสัมพันธ์นั้นจางหายไปหมดแล้วหรือยังนะ...

ครั้งนี้ผมจะรั้งเขาไว้ได้หรือไม่ จะยังอยู่ในฐานะความเชื่อมโยงสุดท้ายระหว่างเขากับโลกอีกหรือเปล่า เบื้องหลังท่าทีนิ่งสงบของตัวเอง ในใจผมกลับกรีดร้องออกมาอย่างดื้อดึง

นายไม่ได้รับอนุญาตให้ลืมฉัน

“ฉันมารับแล้ว” ผมกระซิบ แหบแห้งราวกับลมทะเลทราย แต่กลับรู้สึกได้ถึงหยดน้ำอุ่น ๆ จากขอบตาตัวเอง

ก้าวไปได้อีกไม่เท่าไร ขาผมก็หมดแรงเอาดื้อ ๆ เข่าทรุดลงตรงหน้าร่างนั้น

“..กลับบ้านกันเถอะ...เสี่ยวเกอ”

ผมเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เกือบจะเป็นคร่ำครวญ แต่ไร้คำตอบใด ได้ยินเพียงเสียงหวีดหวิวคล้ายเสียงของพายุหิมะแว่วมาเข้าหู

แค่ก็เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น..






“นายหมดสติไปสองวันเต็ม” นายอ้วนกล่าวพลางชูนิ้วประกอบ “สองวันที่เสี่ยอ้วนต้องฟังนายละเมอเรียกเสี่ยวเกออยู่นั่น”

ผมขมวดคิ้ว รู้สึกปวดหัวหนึบ ๆ ภาพนายอ้วนโผล่เข้ามาในลานสายตา เขาโบกไม้โบกมือไปมาตรงหน้าเมื่อเห็นว่าผมไม่ตอบอะไรสักอย่าง

“เฮ้ย เทียนเจิน” เขาทำหน้าละเหี่ยใจ หลายปีมานี้นายอ้วนดูแก่ลงไปไม่น้อย แต่ท่าทีคล่องแคล่วของเขายังไม่เปลี่ยน “สมองไปหมดแล้วเรอะ!?

ผมพยายามเรียบเรียงความคิดในหัว พร้อมกับผ่อนลมหายใจเข้าออกช้า ๆ นึกประหลาดใจกับคำพูดของนายอ้วนเมื่อครู่ ผมอาจจะฟังผิดไป แต่เสี่ยวเกอหรืออะไรสักอย่างนั่นคือใครกันนะ

“อู๋เสีย”

“นายจะเรียกอะไรนักหนาวะ” ผมบ่นแค่นั้นก็แสบคอไปหมด ทั้งหัวยังหนักอึ้งจนต้องยกมือขึ้นกุมขมับ

นายอ้วนหัวเราะ ทำท่าจะผลักไหล่หยอกเย้า ทว่ากลับชะงักลงกลางคันเมื่อผมถามประโยคถัดไป

“แล้วเสี่ยวเกอคือใคร”

นายอ้วนค้างอยู่ในท่าเดิมเหมือนหมูถูกสตัฟฟ์ อ้าปากคล้ายอยากพูดบางอย่าง แต่แล้วกลับเงียบไป มองผมอย่างชั่งใจอยู่ค่อนวัน จากนั้นถอยไปนั่งข้างเตียงอย่างเก่า เบือนหน้าออกไปยังฟ้ากว้างนอกหน้าต่าง ไม่ยอมตอบคำถามผม

“เสี่ยวเกอคือใคร..”

ผมถามซ้ำ รู้สึกขัดใจกับท่าทีนั้นอย่างยากอธิบาย ยิ่งปวดหัวจี๊ดขึ้นมา เมื่อพยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก

“นั่นสินะ”

เขากระซิบตอบจนได้ หันกลับมามองพร้อมมุมปากซึ่งยกขึ้นน้อย ๆ แต่กลับดูเศร้าสร้อยเกินกว่าจะเรียกว่าเป็นรอยยิ้ม..

“เทียนเจิน ฉันคิดว่านายควรพักอีกหน่อย”

“เสี่ยวเกอ...เป็นใคร..”

“พักเถอะ”

“..เสี่ยว..เกอ?”

นายอ้วนไม่พูดอะไรกับผมอีก

เขาเพียงแต่นั่งอยู่ข้างผมที่มีหยดน้ำร่วงลงจากตาเป็นสาย

ผมไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงร้องไห้ออกมา สมองผมว่างเปล่าขาวโพลน ในอกกลวงโบ๋ รู้สึกราวกับได้สูญเสียบางสิ่งซึ่งสำคัญยิ่งไปตลอดกาล แต่กลับนึกไม่ออกเลยว่าสิ่งนั้นคืออะไร

นายอ้วนเริ่มต้นร้องเพลงด้วยเสียงห่วย ๆ เนื้อเพลงเล่าถึงความอาวรณ์ต่อใครสักคนที่อยู่แสนไกล สายตาทอดมองฝูงนกบินกลับรัง...

“...กลับบ้าน...”

ถ้อยคำแสนคุ้นนั้น ผมเอ่ยมันออกมาอย่างไร้ความหมาย ไม่รู้เคยพูดกับใครอย่างนี้บ้างหรือเปล่า ตอนตามอาสามกลับบ้านหรือ? ไม่น่าใช่

ครั้นเหลียวมองนายอ้วน เขายังคงร้องเพลงของเขาต่อไป

ผมเพียงแต่นั่งฟังเขาอยู่อย่างนั้นจนพลบค่ำ...จนนกบินกลับรังหมดแล้ว


และร้องไห้ให้กับความว่างเปล่า...กระทั่งไม่เหลืออะไรจะไหลลงมาอีก..








--------------





ทุกสิ่งล้วนมาจากมโนค่ะ ไม่สามารถใช้อ้างอิงใด ๆ แค่คิดว่าเสี่ยวเกอพูดเหมือนนายน้อยจะลืมตัวเองลงได้เลย 

สิบปีให้หลัง แล้วจะเกิดอะไรขึ้นนะ ถ้านายน้อยลืมจริง ๆ จะด้วยอำนาจอะไรที่ทำให้ลืมแค่เสี่ยวเกออย่างเฉพาะเจาะจงก็ช่างเถอะ บางทีเสี่ยวเกออาจจะมีส่วนทำให้เกิดขึั้นอย่างนั้นเองก็ได้ ไม่อย่างนั้นนายน้อยต้องเป็นคนรับช่วงต่อหลังจากนั้นหรือเปล่า ผลัดกันเฝ้าหลังประตู? เสี่ยวเกอออกมาได้ นายน้อยเข้าไปแทนอย่างนี้เหรอ ถ้าแบบนั้น ตัวเสี่ยวเกอเองอาจจะอยากให้นายน้อยเป็นอิสระก็ได้นะคะ.... //มโนเข้าสิ ฮืออ

อ่านเล่มสิบจบ มีแต่พล็อตดราม่าค่ะ ฟฟฟฟ นี่จะสอบละ ยังอดไม่ได้มานั่งเขียนนิดนึง 

หวังว่าจะได้พบกันอีกค่ะ...ที่ฉางไป๋ซาน... *ซับน้ำตา*

5 comments:

  1. กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    กรีดร้องก่อนเพราะเมนต์รอบแรกหาย

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    กรีดร้องรอบที่สอง.....เพราะคุณแมวสามตาเขียนสิ่งที่เรากลัว O Q

    คือเป็นรูทที่เรากลัวว่าจะเกิดขึ้นหลังจากอ่านคำพูดนั้นของพี่เมินแกในเล่มสิบค่ะ "ถ้านายยังจำฉันได้" คำนี้ ลึกแค่ไหน หมายความว่าอะไร

    จะเป็นความเบลอตามธรรมชาติของอู๋เสีย หรือหมายถึงความยาวของช่วงเวลา หรือหมายถึงอิทธิพลของอะไรบางอย่าง?

    และ... "หากนายยังจำฉันได้ นายสามารถเปิดประตูสัมฤทธิ์ยักษ์บานนี้ รับช่วงต่อจากฉัน"

    รับช่วงต่อ...คืออะไร

    นายเข้าไปรอคนรับช่วงต่อ......

    ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

    เป็นฟิคที่ทำให้กรีดร้องมาก เหมือนเอาภาพรูทนั้นมาวางกางให้เห็นตรงหน้าเลย โฮฮฮฮฮฮฮ O Q

    ขอบคุณสำหรับฟิคดีๆนะคะ O v Qb

    ReplyDelete
  2. นายเรือพ่วงที่สกิลการใช้ชีวิตล้มเหลวระดับเก้า เขาไม่มีผมไม่ได้หรอก..

    ผมบอกตัวเองว่าเขาขาดผมไม่ได้...แม้รู้ดีที่สุด ว่าความจริงแล้ว ผมต่างหากที่ขาดเขาไม่ได้

    ผมต้องการเขา

    ^^

    คุณแมววววววววววววว โอ๊ยยยยยยย นายน้อยช่างงงงงงงงงง ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

    ต้องการในแง่ไหนอะไรยังไง กินหัวกินหางกินกลางตลอดตัว หรืออยากกอดไว้ในอ้อมแขนคะะะะะะะะะะ

    นายไม่ได้รับอนุญาตให้ลืมฉัน

    ^^
    นายน้อยใจเย็นนะคะะะะะ พูดจากันก่อนสักนิดค่ะะะะะะะะะ

    “..กลับบ้านกันเถอะ...เสี่ยวเกอ”

    ^^
    จุดพลุฉลองบนเขาฉางไป๋ซาน แล้ววิ่งเป็นระบำค่ะะะะะะะ ในที่สุดดด ในที่สุดดดดดดดดดดดดด.

    ความปริ่มนี้ไม่อาจหาที่ระบายได้จริงๆ //มันคงต้องออกเป็นฟิคคคค << หยุด

    “นายหมดสติไปสองวันเต็ม” นายอ้วนกล่าวพลางชูนิ้วประกอบ “สองวันที่เสี่ยอ้วนต้องฟังนายละเมอเรียกเสี่ยวเกออยู่นั่น”

    ^^
    สงสารเสี่ยอ้วน..... คงอยากวิ่งไปนอกบ้านบอกเมื่อไหร่ตรูจะหมดเวรหมดกรรมกับไอ้คู่นี้ว่ะ 5555555555+


    แง้!!!

    ตอนจบมันช่างงงงงงงงงง คุณแมววววววววววววววววววว

    ใครทำกันนะ...หรือเพราะกลไกจากอะไรสักอย่าง ฮือออออออออออออออ

    ReplyDelete
  3. กี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด เหมือนจะเมนท์หายยยย ดีที่พิมพ์ในโน็ตแพดไว้ค่ะ ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ


    นายเรือพ่วงที่สกิลการใช้ชีวิตล้มเหลวระดับเก้า เขาไม่มีผมไม่ได้หรอก..

    ผมบอกตัวเองว่าเขาขาดผมไม่ได้...แม้รู้ดีที่สุด ว่าความจริงแล้ว ผมต่างหากที่ขาดเขาไม่ได้

    ผมต้องการเขา

    ^^

    คุณแมววววววววววววว โอ๊ยยยยยยย นายน้อยช่างงงงงงงงงง ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

    ต้องการในแง่ไหนอะไรยังไง กินหัวกินหางกินกลางตลอดตัว หรืออยากกอดไว้ในอ้อมแขนคะะะะะะะะะะ

    นายไม่ได้รับอนุญาตให้ลืมฉัน

    ^^
    นายน้อยใจเย็นนะคะะะะะ พูดจากันก่อนสักนิดค่ะะะะะะะะะ

    “..กลับบ้านกันเถอะ...เสี่ยวเกอ”

    ^^
    จุดพลุฉลองบนเขาฉางไป๋ซาน แล้ววิ่งเป็นระบำค่ะะะะะะะ ในที่สุดดด ในที่สุดดดดดดดดดดดดด.

    ความปริ่มนี้ไม่อาจหาที่ระบายได้จริงๆ //มันคงต้องออกเป็นฟิคคคค << หยุด

    “นายหมดสติไปสองวันเต็ม” นายอ้วนกล่าวพลางชูนิ้วประกอบ “สองวันที่เสี่ยอ้วนต้องฟังนายละเมอเรียกเสี่ยวเกออยู่นั่น”

    ^^
    สงสารเสี่ยอ้วน..... คงอยากวิ่งไปนอกบ้านบอกเมื่อไหร่ตรูจะหมดเวรหมดกรรมกับไอ้คู่นี้ว่ะ 5555555555+


    แง้!!!

    ตอนจบมันช่างงงงงงงงงง คุณแมววววววววววววววววววว

    ใครทำกันนะ...หรือเพราะกลไกจากอะไรสักอย่าง ฮือออออออออออออออ

    ReplyDelete
  4. คุณแมววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว *เขย่าอย่างบ้าคลั่ง ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ โฮฮฮฮฮฮ โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ ฟิคนี้ทำร้ายมากกกกก มากกกกกกก เป็นสิ่งที่กลัวมากกกกก หลังอ่านเล่ม10จบ กลัวกว่าที่เสี่ยวเกอจะจำนายน้อยไม่ได้ (เพราะแบบนั้นยังลากกลับบ้านไปด้วยกันได้) ก็คือนายน้อยจำเสี่ยวเกอไม่ได้ เจ็บปวด สิ่งสุดท้ายที่เชื่อมโยงจางฉี่หลิงเอาไว้กับโลกหายไปแล้ว ยิ่งถ้าคิดถึง "ถ้านายหายไป ฉันจะรู้" ตอนนี้ก็ไม่มีใครที่จะรับรู้แล้ว...


    (....เอ้อ... บางทีเราก็สงสารเสี่ยอ้วนนิดๆ ไอ้พวกนี้ดันทำเหมือนทั้งโลกมีกันอยู่สองคน ขอโทษนะเสี่ยอ้วน ฟฟฟฟฟฟฟฟฟ แต่นายยังมีแฟนเกิวนะคะ)

    T__T ฮืออออ คุณแมวอะ คุณแมวอะะะ *งอแง #อะไรของแก

    ReplyDelete
  5. โชคดีนะอ่านตอนจบภาค 10 ปี หลังมาก่อน ไม่งั้นคงร้องไห้หนักมาก spoill








    ว่าไม่จบเหมือนหนูน้อยไม้ขีดไฟแน่ๆ

    ReplyDelete